รีวิว The Last of Us
รีวิว The Last of Us หากพูดถึงหนังหรือ “Series” ที่เอาวีดีโอเกมมาปรับแต่งใหม่ให้ดีกว่าเดิม ส่วนใหญ่คอหนังหรือแฟนเกมจะมีมติเอกฉันท์ในด้านความผิดหวังทั้งการดัดแปลงตามความหวังของเกมเมอร์และมาตรฐานการเล่าเรื่องที่ตรงใจผู้ชม ด้วยขอบเขตของขอบเขตเรื่องเล่าที่ต่างกัน แต่แล้วการมาถึงของโปรเจกต์ ‘เดอะลาสต์ออฟอัส’ ของ “HBO” ก็กำลังมาทดสอบความรู้ความสามารถอาถรรพ์ของซีรีส์ adapt จากวีดีโอเกมด้วยบทภาพยนตร์และโปรดักชันที่ไม่ยอมให้เกมในตำนานต้องลดเกียรติยศสุดยอดเกมที่สอยรางวัลมามากมายในปี 2013
โดยเรื่องย่อของซีรี่ย์ก็เดินตามพิมพ์เขียวเดียวกับใน “Video Game” ของค่ายนอตีด็อก (Naughty Dog) เมื่อโลกถูกโจมตีด้วยเชื้อราคอร์ไดเซ็ปส์ (คอร์ไดเซป) ทำให้มนุษย์ที่ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้และสัตว์ประหลาด โจเอล (เปโดร ปาสคาล) ชายหนุ่มที่ใจสลายจากการสูญเสียคนสำคัญในครอบครัวจำต้องพา Ellie (เบลลา แรมซีย์) เดินทางฝ่าด่านเหล่าอมนุษย์เพื่อพาเธอไปยังพื้นที่พ้นภัย และความลับบางอย่างของ Ellie อาจเปลี่ยนชะตากรรมของมนุษยชาติ
สำหรับตอนไพลอตของ ‘The Last of Us’ ต้องบอกว่าทำได้ไม่น่าผิดหวังเลยครับ แม้จะเล่นโทน drama เป็นหลักกว่า 70% แต่พอถึงฉากระทึกขวัญหลาย scene ที่ซีรีส์ยกมาจากเกมก็ทำได้ดีมาก เรียกได้ว่านึกถึงฉากไหนตอนเล่นเกมฉากนั้นปรากฎขึ้นมาเลยทั้งฉากเมืองหลังสิ่งที่เกิดขึ้น “doomsday” ไปจนถึงซีนที่โจเอลต้องพบเจอหน้ากับซอมบี้เชื้อราในที่มืดที่ยังอุตส่าห์เอาการจัดแสงแบบไฟฉายส่องไปที่ subject แบบเดียวกับเกมมาใช้ได้อย่างกลมกลืน
ยังไม่รวมถึง background music ที่เป็นจุดที่เห็นได้ชัดมากของเกมอย่างเพลง ‘Alone and Forsaken’ ของ แฮงค์ วิลเลียมส์ (Hank Williams) และบรรดาเพลงคันทรีที่ถูกเอามาร้อยเรียงในฉากจำมากมายจากเกมก็ยิ่งหนุนส่งให้ผู้ชมเหล่าเกมเมอร์ฟินกันกระจายเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ และน่าจะตั้งความหวังไว้ได้เลยว่าตอนต่อจากนี้ในซีรีส์จะยังคงโทนการเล่าเรื่องที่เข้มข้นผสมผสานกับการคงจิตวิญญาณจากเกมต้นฉบับไว้ไม่เสียชื่อผู้สร้างอย่าง เคร็ก เมซิน โชว์รันเนอร์ ‘ภัยพิบัติเชียร์โนบีล’ ซีรีส์สุดยอดเยี่ยมของ HBO ที่ได้มาร่วมงานกับ นีล ดรักแมน ผู้สร้างเกมต้นฉบับจากนอห์ตีด็อก
อีส่วนหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการ “show” ของทั้ง Pedro Pascal กับ Bella Ramsey ที่บอกได้เลยว่าแม้แคสต์ด้านรูปลักษณ์ภายนอกจะห่างไกลจากเกมมาก แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพที่ปาสคาลสามารถถ่ายทอดความแหลกสลายของตัวละครโจเอล ในขณะที่ Ramsey ก็ถ่ายทอดความแสบและความแกร่งของเอลลี ได้อย่างหมดจด จนความ ‘ไม่เหมือนในเกม’ ไม่ใช่ความขัดข้องอีกต่อไปเพราะการแสดงของทั้งคู่ดีพอที่จะทำให้ผู้ชมติดตามและลุ้นกับชีวิตที่ชะตาลิขิตมาของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังค่อย ๆ แทรกซึมด้วยความมโนภาพหลอนจากการกระทำของพวกคนในหมู่บ้าน ตั้งแต่ตระกูลใหญ่อย่างโกโตะที่จับจองทรัพยากรหลักของหมู่บ้านและตั้งตนเหมือนกลุ่ม Yakuza ท้องถิ่น เหตุการณ์ที่พวกเขาพาพระเอกออกล่าหมีที่ฆ่าคนในตระกูล Goto แล้วชวนพระเอกกินเนื้อหมีดิบตัวที่กินคนมาเพื่อให้เลือดเนื้อของญาติพี่น้องของพวกเขาที่ถูกฆ่าได้ยังอยู่ในตัวลูกหลานต่อไป ก็ทำให้เห็นถึงความต่างจากแบบแผนฐานที่เราเข้าใจไปอย่างสิ้นเชิง
ชมตัวอย่าง : Gannibal
เรียบเรียงโดย : เว็บรีวิวหนัง
เครดิต : ดูหนังออนไลน์ฟรี
